ปราบปลาหมอสีคางดำ ให้ถูกทางตัดวงจรชีวิตตั้งแต่ต้นทาง เพิ่มมูลค่าสร้างรายได้

นักวิชาการด้านสัตว์น้ำ แนะการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอสีคางดำ ต้องขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบรอบด้าน ตัดวงจรชีวิต ควบคุมปริมาณให้อยู่ในวงจำกัด ส่งเสริมการบริโภค ควบคู่กับการบริหารจัดการปลาที่จับมาได้ สร้างมูลค่าเพิ่ม

วันที่ 5 กรกฎาคม 2567 ผศ.ดร.สพญ.วรรณา ศิริมานะพงษ์ อาจารย์ประจำหน่วยสัตว์น้ำ ภาควิชาเวชศาสตร์คลินิกและการสาธารณสุขคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า จากการพบการแพร่ระบาดของปลาหมอสีคางดำในจังหวัดชายฝั่งทะเลทางภาคใต้ของประเทศ เช่น สงขลาและนครศรีธรรมราช จนนำไปสู่การจัดกิจกรรมตามล่า-ตามจับปลาหมอคางดำ ของทั้งสองจังหวัดนั้น

ในทางวิชาการ การจับปลาชนิดนี้ จะช่วยลดปริมาณของปลาในแหล่งน้ำเท่านั้น แต่ถ้าไม่มีการจับปลาอย่างต่อเนื่อง ปลาก็จะมีการแพร่พันธุ์ใหม่อย่างรวดเร็ว ดังนั้นการแก้ปัญหาดังกล่าวจึงควรทำเป็นระบบและรอบด้านตามหลักวิชาการ เพื่อให้การลดปริมาณปลาเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

สำหรับขั้นตอนที่สำคัญและจำเป็นมากในการลดปริมาณปลาให้เกิดผลอย่างมีนัยสำคัญ คือ การศึกษาวงจรชีวิตของปลา ซึ่งจะทำให้เราเรียนรู้ถึงสภาพแวดล้อมที่ปลาแพร่พันธุ์ได้ดีที่สุด ช่วงเวลาวางไข่ ช่วงเป็นตัวอ่อน จะเป็นข้อมูลที่ช่วยสนับสนุนการพัฒนาวิธีการและเครื่องมือที่เหมาะสมในการตัดวงจรชีวิตของปลาหมอสีคางดำตั้งแต่ต้นทางและกำจัดได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญการจัดกิจกรรมจับปลาแต่ละครั้งต้องทำอย่างเป็นระบบและเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม ควบคู่กับการจัดเก็บข้อมูลเพื่อทำการศึกษาวิจัยต่อยอดการแก้ปัญหาในอนาคต

“เนื่องจากปลาหมอสีคางดำ เป็นปลาที่สามารถปรับตัวได้ดีอยู่ได้ทั้งในน้ำจืด น้ำกร่อยและน้ำเค็ม การจับปลาชนิดนี้จึงจำเป็นต้องจับอย่างต่อเนื่องและจับในช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อตัดวงจรชีวิต ซึ่งการไล่จับปลาเป็นครั้งคราวนั้นเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ” ผศ.ดร.สพญ.วรรณา กล่าว

ผศ.ดร.สพญ.วรรณา ย้ำว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของปลาหมอสีคางดำในไทยขณะนี้ จำเป็นต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า หรือระยแรก ด้วยการส่งเสริมให้เป็นอาหารของมนุษย์ รวมถึงการพัฒนาให้เป็นอาหารประจำถิ่น ของแต่ะละพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของปลา แนวทางนี้จะเป็นการสร้างความต้องการให้กับตัวปลา และต้องมีการวางแผนบริหารจัดการและการตลาดอย่างดี เพื่อจูงใจให้เกิดการจับปลาต่อเนื่อง

เช่น มีการรับซื้อในราคาที่เหมาะสม ส่งเสริมการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร ทั้งอาหารมนุษย์และอาหารสัตว์ เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเปล่าและไม่ให้มีการปล่อยปลากลับคืนลงไปในแหล่งน้ำอีก

ส่วนระยะกลาง ควรมีการระดมสมองเพื่อทำการศึกษาวงจรชีวิตของปลา ซึ่งจะนำไปสู่การกำจัดปลาอย่างมีประสิทธิภาพและลดจำนวนปลาอย่างมีนัยสำคัญ และระยะยาว จำเป็นต้องเผยแพร่ความรู้และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสายพันธุ์ปลาหมอสีคางดำอย่างถูกต้องให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและชุมชนได้เรียนรู้ และสามารถปรับตัวอยู่กับสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน ขณะเดียวกันยังร่วมมือกันกำจัดปลาอย่างเป็นระบบและถูกต้องตามหลักวิชาการอย่างต่อเนื่อง สร้างความสมดุลทางนิเวศ (Ecological Balance)

ผศ.ดร.สพญ.วรรณา กล่าวว่า การแก้ปัญหาปลาหมอสีคางดำระบาด ต้องเดินหน้าแบบองค์รวมและทำงานร่วมกันทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง สามารถลดปริมาณประชากรปลาได้ตามเป้าหมาย ตลอดจนช่วยฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพของแหล่งน้ำธรรมชาติให้เป็นแหล่งอาหารของคนในชุมชนอย่างยั่งยืน

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ปราบปลาหมอสีคางดำ ให้ถูกทางตัดวงจรชีวิตตั้งแต่ต้นทาง เพิ่มมูลค่าสร้างรายได้

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่

– Website : https://www.prachachat.net

2024-07-05T09:06:25Z dg43tfdfdgfd