พ่อเมืองลพบุรีจัดงบ 2 ล้าน คุมประชากรลิง-ฟื้นเมืองกู้เศรษฐกิจ

ผู้ว่าฯลพบุรีผนึกภาคเอกชน เร่งจัดระเบียบลิงคู่ขนานฟื้นฟูเมืองพลิกฟื้นเศรษฐกิจ หลังจัดงบฯ 1.89 ล้านบาท เร่งทำหมันลิง 6 อำเภอ 1,100 ตัว จาก 10,000 ตัวทั่วจังหวัด พร้อมวางแผนระยะยาวตั้งคณะกรรมการปรับโครงสร้าง ตั้งหน่วยงานใหม่ให้เทศบาลบริหารจัดการลิงโดยเฉพาะ

ลพบุรีทุ่มงบฯลุยทำหมันลิงยกจังหวัด

นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงการแก้ไขปัญหาลิงล้นเมืองว่า ภายหลังจากการจับลิงบริเวณโรงแรมเอเชีย ตึกชโยวานิช และตลาดมโนราห์ ราว 1,200 ตัว เข้าสู่สวนลิงโพธิ์เก้าต้นแล้วนั้น ล่าสุด จ.ลพบุรีได้รับการจัดสรรงบฯจากสำนักงบประมาณ จำนวน 1.89 ล้านบาท เพื่อทำหมันลิงรวม 1,100 ตัวทั่วจังหวัดที่กระจายตัวอยู่ใน 6 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.พัฒนานิคม อ.หนองม่วง อ.ชัยบาดาล อ.ท่าวุ้ง และ อ.บ้านหมี่

โดยมอบหมายสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด เป็นผู้ดำเนินการเพื่อคงจำนวนประชากรลิงไม่ให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่มีลิงทั้งจังหวัดไม่ต่ำกว่า 10,000 ตัว โดยทั้ง 6 อำเภอจะได้รับการจัดสรรงบประมาณตามความผลกระทบที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่ ซึ่งคาดว่าอำเภอชัยบาดาลและอำเภอบ้านหมี่น่าจะได้รับการจัดสรรงบประมาณมากที่สุด

เพราะมีลิงอาศัยอยู่อำเภอละไม่ต่ำกว่า 2,000 ตัว โดยเฉพาะบริเวณเขาสมโภชน์ เขตอำเภอชัยบาดาลที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มองว่าหากผ่านความเห็นชอบจากทุกภาคส่วนก็จะนำลิงจากสวนลิงโพธิ์เก้าต้นไปไว้ในพื้นที่ดังกล่าวในอนาคต

“ผมให้ไปดูที่ความหนักเบาแล้วก็เกลี่ยเงินลงไป แน่นอนว่าอำเภอชัยบาดาล และอำเภอบ้านหมี่น่าจะได้มาก ส่วนอำเภอเมืองเราทุ่มเททรัพยากรไปที่เขตเมืองเก่าเยอะแล้ว จึงแบ่งไปที่อำเภออื่นได้มากขึ้น เพื่อไม่ให้ลิงเพิ่มจำนวนจนเกินกว่าที่จะควบคุมได้

แต่สิ่งที่จะเกิดเป็นข้อกังวลตามมาคือการทำหมันลิงจำนวนมาก จะต้องใช้บุคลากรของกรมอุทยานฯจำนวนมาก และอาจจะไม่เพียงพอ ทำให้ผมมองไปจนถึงการตั้งหน่วยงานขึ้นมาเพื่อรับผิดชอบด้านนี้โดยเฉพาะ” นายอำพลกล่าว

เทศบาลลพบุรีดูแลลิงครบวงจร

นายอำพลกล่าวด้วยว่า ในแต่ละครั้งที่มีแผนดำเนินการเกี่ยวกับการทำหมันให้กับลิงลพบุรีจำนวนมาก มักจะมีปัญหาเรื่องบุคลากรไม่เพียงพอ จึงมีแนวคิดที่จะจัดตั้งหน่วยงานขึ้นในเทศบาลเมืองลพบุรี ในกรณีที่มีประชาชนแจ้งเข้ามาว่าลิงเข้ามาก่อกวนในบ้านพักที่อยู่อาศัย เทศบาลก็สามารถนำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่จับลิงได้ทันที จากเดิมที่ต้องแจ้งไปยังส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ สาขาสระบุรี ก่อน

นอกจากนี้ก่อนที่ในระยะยาว กรมอุทยานฯจะนำลิงไปอาศัยยังพื้นที่เหมาะสม ยังมองถึงการหารายได้ของเทศบาลด้วยการพัฒนาสวนลิงโพธิ์เก้าต้น เป็นสถานที่ท่องเที่ยว เพราะการดูแลลิง ตามข้อมูลของกรมอุทยานฯระบุว่า เฉพาะค่าอาหารอยู่ที่ 20 บาทต่อตัวต่อวัน หากประเมินจากจำนวนลิง 1,200 ตัว ที่สวนลิงโพธิ์เก้าต้นในวันนี้

และตั้งเป้าหมายสุดท้ายภายในปี 2568 น่าจะมีลิงไม่ต่ำกว่า 2,500 ตัว ต้องจ่ายค่าอาหารประมาณ 50,000 บาทต่อวัน หรือ 1.5 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมากและอาจเป็นภาระด้านคลังของเทศบาล ดังนั้น หน่วยงานอย่างเทศบาลอาจจะต้องมองถึงการหารายได้จากแหล่งอื่นเพื่อดูแลลิงต่อไป

อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาลิงต้องดำเนินการควบคู่กับการฟื้นฟูและปรับภูมิทัศน์เมือง จึงต้องมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชนและผู้เชี่ยวชาญด้านการวางผังเมือง รวมถึงทำประชาพิจารณ์คือการพูดคุยกันในเรื่องของจำนวนลิงที่ตกสำรวจไปพร้อม ๆ กันด้วย

“พูดถึงแค่เรื่องกินอย่างเดียว ยังไม่ได้รวมค่าบำรุงรักษา การซ่อมบำรุงกรง การจ้างคนทำงาน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเวชภัณฑ์ ยารักษาโรค วัคซีน เซรุ่มทั้งหลาย คำนวณแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาทต่อปี จึงอยากจะให้กรมอุทยานฯมอบอำนาจมา เพราะเทศบาลเขาพร้อมจะช่วยด้วยการรับภาระของกรมอุทยานฯมาเลย เนื่องจากปัญหาลิงมีหลายพื้นที่ต้องดูแล เขาอาจจะดูแลทั้งหมดไม่ไหว ดังนั้นจึงต้องช่วย ๆ กันดูแล ทั้งนี้ก็เพื่อให้คนอยู่ได้ ลิงก็ปลอดภัย” นายอำพลกล่าว

กรมอุทยานฯไร้แผนระยะยาว

นายประสิทธิ์ ลิ้มธเนศกุล เจ้าของธุรกิจห้างทองเพียรทิพย์ โรงรับจำนำธเนศสิน และบริษัท พัชรธุรกิจ จำกัด บริการเงินด่วน จังหวัดลพบุรี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังจากที่เริ่มมีการจับลิงออกจากพื้นที่ไปประมาณ 1,191 ตัวแล้ว ภาคธุรกิจมีความมั่นใจมากขึ้น

แต่ในขณะเดียวกันยังคงกังวลในส่วนของนโยบายในระยะยาวของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และส่วนราชการจะดำเนินการต่อไปอย่างไร ซึ่งจริง ๆ แล้วภาคประชาชนและชุมชนในพื้นที่ต่างให้ความร่วมมือถ้ามีการชี้แจงแนวทางการช่วยเหลือที่ชัดเจน

เพราะยังคงมองไม่เห็นทิศทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว รวมถึงการประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลกับคนในพื้นที่ยังไม่ดีเท่าที่ควร จำเป็นต้องมีแผนระยะสั้น-ระยะกลาง-ระยะยาว เช่น ถ้าลิงที่จับไปประมาณ 1,000 กว่าตัว เหลืออีกประมาณ 2,000 กว่าตัว จะต้องทำอย่างไรต่อหลังจากนี้เพราะกรงก็ไม่เพียงพอที่จะรองรับปริมาณลิง จะต้องมีการสร้างกรงหรือปรับปรุงเพิ่มเติมและจำเป็นต้องใช้งบฯเพิ่มจากส่วนไหน

ในส่วนของระยะสั้นจับลิงออกมาเพื่อทำหมัน ตรวจสุขภาพ ฉีดวัคซีนแล้ว หลังจากนี้ในส่วนของระยะกลางจะต้องทำการย้ายลิงไปไว้ที่ไหน และระยะยาวจะต้องทำอย่างไรต่อไป ขณะที่ปัญหาต่อไปคือการฟื้นฟูบริเวณเมืองเก่า ซึ่งในระยะแรกอาจจะมีการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้มีความสะอาดและปลอดภัยมากขึ้น ส่วนในระยะที่สองจะเป็นการฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจ ชูแหล่งท่องเที่ยวเป็นหลัก และตามด้วยการค้าขายและการบริการต่าง ๆ

นักธุรกิจหวั่นลงทุนไม่คุ้มเสี่ยง

ด้านนางสาวภัณฑิรา สิทธินววิธ เจ้าของธุรกิจห้างทองยิ่งเจริญ ลพบุรี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ย่านเมืองเก่าเห็นได้ชัดว่ามีร้านค้าปล่อยให้เช่าและปิดกิจการเป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีผู้สนใจเช่าเพราะสู้ต้นทุนค่าเช่าไม่ไหว ส่วนนักธุรกิจก็ไม่กล้าลงทุน เนื่องจากถ้าลงทุนไปแล้วเกิดหยุดชะงักไม่มีคนเข้ามา ทุกอย่างก็เสียหาย แม้จะมีการจับลิงไปบ้างแล้ว

หลังจากนี้ควรจะต้องมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพราะยังมีลิงบางส่วนที่ซ่อนตัวอยู่ตามจุดต่าง ๆ เมื่อมีการหยุดจับ ลิงก็เริ่มกลับมา ขณะเดียวกันลิงที่ยังอยู่ หากไม่ได้มีการทำหมัน ถ้าปล่อยทิ้งไว้ก็จะสร้างปัญหาเหมือนเดิม

“ที่บ้านต้องทำแผงเหล็กกั้นทั้ง 5 ชั้น ถึงดาดฟ้าป้องกันลิงเข้ามาในบ้านทำลายข้าวของเสียหาย ซึ่งเราจ่ายค่าติดตั้งเองทั้งหมด” นางสาวภัณฑิรากล่าว

ด้านนางสาวภริน แจ้งวงษ์ เจ้าของธุรกิจลพบุรีป๊อปซันต์สปอร์ต เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เสียดายมูลค่าทางเศรษฐกิจในตัวเมือง เพราะว่าบริเวณเมืองเก่าลพบุรีมีโบราณสถานหลายแห่ง ถ้าภาครัฐและเอกชนจับมือร่วมกันพัฒนาเมืองอย่างจริงจังก็สามารถผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเหมือนเมืองหลักได้ แต่ติดปัญหาคือ นักลงทุนหน้าใหม่ไม่กล้าเข้ามาเสี่ยงลงทุน

เพราะไม่สามารถคาดเดาได้ว่าลงทุนแล้วจะไปต่อได้หรือไม่ จะได้กำไรหรือขาดทุน ยอมตัดสินใจไปลงทุนในพื้นที่อื่นที่มีจุดเด่นมากกว่าสร้างปัญหาแบบเดิม ขณะที่ร้านค้าเก่าในบริเวณนี้เมื่อก่อนขายดีมาก แต่ตอนนี้บางร้านก็ขายได้กำไร แต่ก็ลดน้อยลง ต้นทุน ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น

บางเจ้าไม่มีต้นทุนก็ต้องย้ายออกไปเช่าที่ใหม่ คนที่ยังอยู่ก็เป็นคนในพื้นที่เดิมที่รู้วิธีรับมือกับลิงอยู่แล้ว เลยเป็นปัญหาที่สะสมมานานและถูกละเลย ถ้าไม่มีการจัดการที่ดี ลิงก็จะกลับมาขยายพันธุ์เพิ่มขึ้น ปัญหาดังกล่าวจึงต้องได้รับความช่วยเหลือและความร่วมมืออย่างจริงจังจากทุกภาคส่วน

“แถวบ้านตอนนี้ยังไม่ค่อยมีลิง แต่ก็เริ่มมีเดินมาสำรวจพื้นที่ ถ้ามีคนให้อาหาร ลิงก็จะเริ่มไปรวมตัวกัน ทำให้เกิดการขยายตัวเป็นวงกว้าง ที่เป็นปัญหาคือคนนอกพื้นที่เข้ามาให้อาหาร ลิงก็เลยไปอยู่รวมกันในบริเวณที่มีอาหาร เกิดการขยายพันธุ์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ คนลพบุรีเดือดร้อนมากจริง ๆ เสียดายมูลค่าทางเศรษฐกิจบริเวณนี้มาก จากตึกที่เคยมีการค้าขายก็กลายเป็นตึกร้าง จริง ๆ มันสามารถสร้างเม็ดเงินได้มากกว่านี้ อยากให้ทำต่อไป ลพบุรีจะได้ไม่เกิดปัญหาซ้ำเดิม”

หอฯชี้รัฐเร่งผนึกเอกชนฟื้นเมือง

นายพงศธร ชัยชนะพานิช ประธานหอการค้าจังหวัดลพบุรี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ที่ผ่านมาลิงถือเป็นอุปสรรคหนึ่งที่ทำให้ลพบุรีขาดการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ กระทบการค้าขายพ่อค้าแม่ค้ารวมถึงภาคธุรกิจ นักลงทุน ดังนั้น ทางจังหวัดลพบุรีจึงแก้ไขปัญหาลิงเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยแบ่งออกเป็น 2 เฟสใหญ่ๆ คือ เฟสแรก ย้ายลิงออกมาจากบริเวณตัวเมืองไปอยู่ที่สวนลิงโพธิ์เก้าต้น ซึ่งเป็นจุดที่เหมาะสมสำหรับการ จัดการดูแล ซึ่งปัญหาในส่วนนี้คาดว่าจะต้องใช้ระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 5 ปี

เฟสสอง คือ การที่ภาครัฐ ภาคเอกชนรวมถึงภาคประชาชน จะต้องหันมาพูดคุยกันถึงเรื่องการพัฒนาเมืองและกำหนดทิศทางต่อไปในอนาคต หอการค้าเองมองว่า ในตัวตลาดเก่ามีโบราณสถานที่สำคัญน่าจะพัฒนาไปในเชิงการท่องเที่ยวและการค้าน่าจะเหมาะสม เมื่อทุกคนมีความคิดเห็นตรงกัน ตัวเมืองเก่าในจ. ลพบุรีก็สามารถพัฒนาและฟื้นฟูให้ดีขึ้นได้

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : พ่อเมืองลพบุรีจัดงบ 2 ล้าน คุมประชากรลิง-ฟื้นเมืองกู้เศรษฐกิจ

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่

– Website : https://www.prachachat.net

2024-07-03T01:32:56Z dg43tfdfdgfd